ที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาอาวุธขนาดเล็กต่าง ๆ คือปืนไรเฟิลของรัสเซีย สงครามและความขัดแย้งติดอาวุธจำนวนมากไม่ได้เกิดขึ้นหากไม่ได้มีส่วนร่วมในผลิตภัณฑ์ของนักออกแบบชาวรัสเซีย ตามที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเครื่องถูกนำมาใช้ในเกือบทุกทวีป นอกเหนือจาก AK แล้วยังมีการกล่าวถึงปืนไรเฟิลอัตโนมัติแบบอเมริกัน M16 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าไม่ยุติธรรมเนื่องจากมีปืนไรเฟิลรุ่นอื่นที่มีประสิทธิภาพเท่ากัน หนึ่งในนั้นคือปืนไรเฟิลเบลเยียม FN FAL ตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามันเป็นหน่วยปืนไรเฟิลไม่ใช่ M16 ซึ่งในศตวรรษที่ 20 นั้นมีการแข่งขันที่คู่ควรกับตำนาน AK ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการสร้างอุปกรณ์การดัดแปลงและข้อกำหนดทางเทคนิคของปืนไรเฟิลอัตโนมัติ FN FAL สามารถพบได้ในบทความนี้
เริ่มงานกับอาวุธเบลเยียม
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองทหารของประเทศส่วนใหญ่ยอมรับประสิทธิภาพของอาวุธอัตโนมัติ ในช่วงหลังสงครามการติดอาวุธหนักเริ่มขึ้นในกองทัพเนื่องจากปืนกลมือไม่สอดคล้องกับความต้องการของการก่อตัวของกองทัพอีกต่อไป นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าปืนไรเฟิลอัตโนมัตินั้นมีความแม่นยำต่ำเมื่อทำการยิงระเบิดและข้อ จำกัด ของกระสุน ไม่เช่นนั้นปืนไรเฟิลจะหนักเกินไปและอึดอัดที่จะสวมใส่ ชาวเยอรมันแก้ปัญหานี้ได้ด้วยความช่วยเหลือของตลับหมึกกลางที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ พลังของกระสุนและมิตินี้มากกว่าปืนพก แต่น้อยกว่าปืนไรเฟิล
ในไม่ช้าความคิดในการใช้คาร์ทริดจ์ระดับเดียวกันก็ถูกนำไปใช้โดย gunsmiths ในรัฐอื่น เบลเยียมไม่ได้ยืนเคียงข้างกัน ในปี 1946 นักออกแบบของ บริษัท เบลเยียม FN Herstal ใน Erstal เริ่มสร้างปืนไรเฟิลอัตโนมัติใหม่ซึ่งในประวัติศาสตร์ของอาวุธกลายเป็นที่รู้จักในฐานะปืนไรเฟิลจู่โจม FN FAL
เกี่ยวกับการออกแบบ
การสร้างปืนไรเฟิล FN FAL นั้นดำเนินการภายใต้การนำของหัวหน้าวิศวกร Dieudonne Sav และ Ernest Verviers ในเวลาเดียวกันงานกำลังดำเนินการกับตัวเลือกทางเลือกที่สามารถติดตั้งคาร์ทริดจ์ระดับกลางของเยอรมันได้ที่ 7.92 คูณ 33 มม. และกระสุนปืนไรเฟิลมาตรฐาน ออกแบบปืนไรเฟิลใหม่ภายใต้คาร์ทริดจ์ภาษาอังกฤษ 7 x 43 มม. ในปี 1949 ตัวเลือกที่สามก็พร้อม อีกหนึ่งปีต่อมามีการทดสอบอาวุธในสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกันตระหนักถึงประโยชน์ของอาวุธเบลเยี่ยม แต่หักล้างความคิดของคาร์ทริดจ์ระดับกลาง แต่ชาวปืนชาวอเมริกันเสนอการพัฒนาของตัวเอง - กระสุน T65 วันนี้ตลับหมึกนี้ในเอกสารทางเทคนิคมีการระบุไว้ในรูปแบบ 7.62 x 51 มม. นาโต้
ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่ามีข้อตกลงกันอย่างไม่เป็นทางการระหว่างประเทศสมาชิกนาโต้และสหรัฐอเมริกาว่ามีการทำข้อตกลงตามที่ชาวยุโรปซื้อกระสุนอเมริกัน ไม่ว่าสิ่งนี้จะเป็นจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามหากมีข้อตกลงดังกล่าวสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้ทำตามคำมั่นสัญญาตั้งแต่ปีพ. ศ. 2500 ทหารราบชาวอเมริกันได้รับปืน M14
ส่งผลให้เกิด
ทำงานกับอาวุธ FN FAL แล้วเสร็จในปี 1953 หน่วยปืนไรเฟิลพร้อมสำหรับการผลิตเป็นจำนวนมาก รัฐแรกที่ใช้ปืนไรเฟิล FN FAL ในปี 1955 คือแคนาดา มีอาวุธถูกระบุว่าเป็น C1 ในเบลเยียมทหารได้รับปืนไรเฟิลรุ่นนี้ในปี 1956 อีกหนึ่งปีต่อมาปืน FN FAL ถูกส่งไปยังประเทศอังกฤษ ที่นั่นอาวุธที่ทำจากเบลเยียมถูกระบุว่าเป็น L1 SLR ในออสเตรียปืนไรเฟิลตั้งแต่ปี 1958 พวกเขาถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Sturmgewehr 58
ตามมาตรฐานของนาโต้อาวุธ FN FAL บรรจุเบรกปากกระบอกปืนและใช้ปืนไรเฟิลมาตรฐาน
ลักษณะ
ปืนไรเฟิลเบลเยียมประกอบด้วยส่วนหลักดังต่อไปนี้:
- บาร์เรลและผู้รับ
- บานประตูหน้าต่าง
- กลไกทริกเกอร์
- ท่อระบายที่มีลูกสูบก๊าซ
- จัดการสำหรับการโหลดใหม่
- ชน
- ร้านขายของ
หุ้นประกอบด้วยส่วนหน้าและส่วนท้าย ในหน้ามีสองแก้มด้วยความช่วยเหลือของที่ท่อระบายอากาศถูกปิดด้านหน้า การออกแบบของแบบจำลองการยิงนี้ทำขึ้นตามรูปแบบที่แตกหักได้คือตัวรับสัญญาณและตัวเหนี่ยวไกนั้นเชื่อมต่อผ่านบานพับ ปืนไรเฟิลแบบคลาสสิกนั้นมาพร้อมกับคันบังคับพิเศษ
จากปี 1964 ถึงปี 1965 อุปกรณ์ทำจากไม้ ต่อมาพลาสติกเริ่มถูกนำมาใช้เป็นวัสดุทำให้กระบวนการผลิตง่ายขึ้นและถูกลง ต่อมากลุ่มตัวอย่างเริ่มที่จะติดตั้ง Weaver และ Picatinny Rail
เครื่อง
ปืนไรเฟิล FN FAL ใช้การกำจัดก๊าซชนิดผงด้วยลูกสูบก๊าซซูเปอร์นาทาระยะสั้น ปืน SVT-40 และ SAFN-49 มีการออกแบบที่คล้ายกัน ลูกสูบก๊าซประกอบไปด้วยสปริงส่งคืนของมันเอง ห้องแก๊สถูกวางไว้เหนือถัง ต้องขอบคุณผู้ควบคุมในตัวปืนมีโอกาสที่จะควบคุมการเคลื่อนไหวของก๊าซฝุ่นผ่านช่องเปิดพิเศษขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน
หากมีการใช้ระเบิดมือปืนเต้าเสียบแก๊สจะถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์ เมื่อต้องการทำเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะปิดรูในห้องซึ่งก๊าซผ่านเข้ามาในบรรยากาศ ช่องบาร์เรลถูกล็อคโดยใช้ชัตเตอร์แบบเลื่อนตามยาวซึ่งเอียงในแนวตั้งเลื่อนลงและแก้ไขด้วยการยื่นออกมาพิเศษที่ด้านล่างของเครื่องรับ
ด้านหลังของเฟรมมีการยื่นออกมาเอียงซึ่งทำให้ยกชัตเตอร์ดังนั้นปลดล็อคช่องบาร์เรล ตำแหน่งของชัตเตอร์กลายเป็นกรอบชัตเตอร์ขนาดใหญ่ หลังจากการยิงแต่ละครั้งลูกสูบก๊าซจะทำงานกับมันซึ่งมีหน้าที่บีบอัดสปริงที่กลับมา ในการแก้ไขมันถูกวางไว้ในก้นคงที่ มันทำหน้าที่ในกรอบสายฟ้าด้วยขาแคบยาว อุปกรณ์ที่คล้ายกันนั้นเป็นเรื่องปกติสำหรับหน่วยปืนไรเฟิลซึ่งมีการยึดบั้นท้ายไว้ หากพวกเขาจะพับแล้วสถานที่ของฤดูใบไม้ผลิเป็นหน้าปกของผู้รับ ในเวลาเดียวกันมันโต้ตอบโดยตรงกับเฟรมซึ่งได้รับการแก้ไขเล็กน้อยสำหรับวัตถุประสงค์นี้
กลไกการส่งคืนจะถูกติดตั้งในท่อโลหะ มันเป็นตัวแทนของสองน้ำพุที่มีขดลวดที่แตกต่างกันและตั้งอยู่ใกล้กัน ที่ด้านซ้ายของที่จับกล่องติดตั้งสำหรับการโหลดซ้ำ หน้าที่ของเธอคือลดการกดชัตเตอร์ ดันสปริงส่งกลับ หากการปิดไม่ได้เกิดขึ้นเต็มที่ก็ไม่สามารถเลื่อนไปข้างหน้าด้วยความพยายามที่จะทำเช่นนี้ หลังจากใช้กระสุนทั้งหมดในร้านแล้วสายฟ้าจะยังคงเปิดอยู่ ในตำแหน่งนี้จัดขึ้นโดยการยื่นออกมาพิเศษของเครื่องป้อนในคลิป ภาพถ่าย FN FAL นำเสนอในบทความ
USM
ตามที่ผู้เชี่ยวชาญปืนไรเฟิลเบลเยียมนั้นมีกลไกทริกเกอร์ที่ง่ายและน่าเชื่อถือ มันถูกใช้เป็นแบบจำลองสำหรับการออกแบบของแบบจำลองการยิงในภายหลัง USM วางไว้ในหน่วยแยกต่างหากซึ่งมีด้ามปืนพกกล่องหดตัวและกลไกเอง เมื่อใช้บานพับบล็อกจะเชื่อมต่อกับด้านล่างของตัวรับสัญญาณ ประเภททริกเกอร์ USM มีการแยกหลักและทริกเกอร์การหมุน มันถูกดัดแปลงสำหรับไฟเดี่ยวและอัตโนมัติ ใช้การตั้งเวลาถ่ายภาพหากไม่เปิดชัตเตอร์ ด้านซ้ายของผู้รับสงวนไว้สำหรับผู้แปลโหมด
เกี่ยวกับกระสุน
สำหรับปืนไรเฟิลจู่โจม FN FAL ได้มีการพัฒนานิตยสารแบบถอดได้สำหรับกระสุน 20 และ 30 กระสุน อุปทานของพวกเขาไปยังห้องจะดำเนินการโดยเร่งเร้าพิเศษ
30 คลิปกลมมีสองประเภท:
- เส้นตรงที่ถือว่าเป็นมาตรฐาน
- โค้งเหมือนเขาของปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov
ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธร้านปืนไรเฟิลจู่โจมชาวเบลเยียมสามารถติดตั้ง L1A1 ได้ แต่ไม่ใช่ในทางกลับกัน นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าในระหว่างการผลิต FN FAL ตะขอด้านหน้าของคลิปถูกประทับตราและมีขนาดเล็กลง ใน L1A1 ตะขอทำจากชิ้นส่วนแยกกันและมีขนาดใหญ่กว่า เมื่อกำหนดขนาดของตะขอเหล่านี้ร่องจะทำในปล่องของโกดัง
เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการปรับเปลี่ยน FN FAL ต่างๆนั้นมีวิธีการต่าง ๆ สำหรับการเล็ง โมเดลส่วนใหญ่มีสายตาด้านหลังแบบไดออปเตอร์ นอกจากนี้ภาพด้านหน้าตั้งอยู่ด้านหน้าของอุปกรณ์ระบาย ในตัวอย่างปืนไรเฟิลเดิมสถานที่ท่องเที่ยวได้รับการออกแบบมาสำหรับระยะทางในระยะ 200-600 ม. เพื่อให้ปืนไรเฟิลมีประสิทธิภาพในเงื่อนไขที่หลากหลาย
เกี่ยวกับการติดตั้งหมายถึงแสง
เลนส์สายตา (กลางวันกลางคืนความร้อนและอิเล็กทรอนิกส์) ติดตั้งอยู่บนปืนโดยใช้ตัวยึดพิเศษซึ่งตามมาตรฐาน STANAG จะมีการติดตั้งสองจุด วงเล็บถูกสร้างขึ้นพร้อมกับฝาครอบตัวรับเป็นหน่วยเดียว ในการติดตั้งปืนไรเฟิลด้วยเลนส์มันก็เพียงพอแล้วที่ลูกศรจะถอดฝาครอบมาตรฐานและวางผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันไว้ในที่ของมัน แต่ใช้ขายึด ในปืนไรเฟิลที่มีสต็อกแบบพับได้วงเล็บจะหมุนไปในทิศทางตรงกันข้าม นอกจากนี้สำหรับการติดตั้งสถานที่ท่องเที่ยวให้ใช้ Picatinny rail และ Weaver ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นอะแดปเตอร์พิเศษ
ในความพยายามที่จะทำให้การติดตั้งเลนส์ง่ายขึ้น บริษัท การค้าอาวุธได้จัดตั้งการผลิตฝาปิดถังอลูมิเนียมที่ผ่านการขัดสีแล้ว ตัดสินจากความคิดเห็นมากมายเนื่องจากการออกแบบนี้ความสูงของภาพลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
เกี่ยวกับข้อกำหนดทางเทคนิค
รูปแบบมีข้อกำหนดดังต่อไปนี้:
- ความยาวรวมของปืนไรเฟิลคือ 109 ซม. กระบอก - 53.3 ซม.
- อาวุธมีน้ำหนักไม่เกิน 4.3 กก.
- Caliber FN FAL - 7.62 มม.
- การยิงจะกระทำโดยกระสุนของนาโต้ 7.62 x 51 มม.
- ลำกล้องมีปืนไรเฟิลสี่มือขวา
- ประเภทกล่องนิตยสารอัตโนมัติที่ถอดออกได้มี 20 และ 30 รอบแต่ละ
- ปืนไรเฟิลเบลเยียมหนึ่งลำจาก 650 ถึง 700 นัดสามารถยิงได้ภายในหนึ่งนาที
- ระยะเล็งคือ 650 เมตร
- กระสุนเคลื่อนไปทางเป้าหมายด้วยความเร็วเริ่มต้น 823 m / s
- ปืนไรเฟิลพร้อมกับสายตาสายตามาตรฐาน
เกี่ยวกับการดัดแปลง
ปืนไรเฟิลเบลเยี่ยม (French fusil automatique leger) ทำหน้าที่เป็นพื้นฐานสำหรับการออกแบบโมเดลปืนไรเฟิลใหม่:
- FN FAL 50.00 มันเป็นปืนไรเฟิลมาตรฐานที่มีก้นพับ
- 50.64 สำหรับรุ่นนั้นจะมีก้นแบบพับให้
- 50.63 หน่วยปืนไรเฟิลที่มีกระบอกสั้นลงและก้นพับโลหะ อาวุธถูกใช้โดยกองทัพอากาศ
- 50.41 หน่วยปืนไรเฟิลนี้เป็นปืนกลที่มีน้ำหนักเบาพับ bipod กระบอกยาวและมีน้ำหนัก
- FN CAL ถือเป็นปืนกลมือยุโรปเครื่องแรกที่ใช้ตลับ 5.56 x 45 มม.
- Steyr Stg. 58 มีโครงสร้างคล้ายกับโมเดล 50.00 แต่มีการปรับเปลี่ยนส่วนหน้าและส่วนท้าย ประเทศต้นกำเนิด - ออสเตรีย
- IMBEL LAR อาวุธได้รับการออกแบบในบราซิลโดยใช้ปืนไรเฟิลเบลเยียม
- DSA-58OSW มันเป็น FN FAL ที่สั้นลง มีแผ่น Picattini จาก DS Arms ของ บริษัท อเมริกัน ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญในวันนี้ตัวอย่างนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามากที่สุดในตลาดอาวุธของสหรัฐ
- C1 ปืนไรเฟิลได้รับการพัฒนาโดยนักออกแบบปืนชาวแคนาดาจากการออกแบบ FN FAL มันแตกต่างจากชุดปืนไรเฟิลเบลเยียมในก้นและสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการดัดแปลง
เกี่ยวกับข้อดีและข้อเสีย
ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญปืนไรเฟิลนั้นมีความแม่นยำสูงในการต่อสู้จากระยะไกลสูงถึง 1, 000 เมตรตัวเลขนี้จะลดลงอย่างมากหากนักแปลทำการเปลี่ยนจากการยิงครั้งเดียวเป็นการยิงระเบิด ความนิยมอย่างสูงคือกระสุนสังหารของนาโต้ที่ 7.62 x 51 มม. ตลับหมึกที่มีสัญลักษณ์แสดงหัวข้อมั่นคงและหนัก ปืนอาจไม่กลัวว่าเป็นผลมาจากการสัมผัสกับใบไม้หรือกิ่งไม้กระสุนปืนจะเปลี่ยนเส้นทางการบิน ตัดสินโดยบทวิจารณ์ด้วยกระสุนดังกล่าวมันง่ายที่จะยิงเป้าหมายที่สวมใส่ชุดเกราะ อย่างไรก็ตามเครื่องเบลเยี่ยมอุดตันได้ง่าย
