ในสังคมของเราความหมายเชิงลบของคำว่า "ชายขอบ" นั้นได้ยึดแน่น นี่อาจเป็นเพราะการแปลโดยตรงจากภาษาละติน: "อยู่ที่ขอบบนเส้นขอบ" เขาให้คำว่าสีของสิ่งที่ไม่เป็นความลับอีกต่อไปเกือบจะไม่รูท ชายขอบคือคนที่อยู่ข้างสนามไม่ติดกับคนข้างหน้าหรือคนที่พยายามจะหยุดเวลา
นั่นคือบุคคลดังกล่าวตกจากพื้นฐานในขณะนี้โปรเฟสเซอร์
การรับรู้ของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตวัฒนธรรมหรือสังคม
คำจำกัดความนี้สามารถใช้ได้ทั้งกับผู้ไม่มีการศึกษาที่ถูกทิ้งร้างอย่างสมบูรณ์ที่อาศัยอยู่กับความต้องการดั้งเดิมและผู้ที่การสร้างสรรค์และคำพูดในหลายปีจะกลายเป็นเหมือนคัมภีร์ไบเบิล เพราะในขณะนี้พวกเขาเป็นเพียงพวกเขา และพวกเขาไม่มีตำแหน่งที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปเกี่ยวกับโลกรอบตัว มาร์จินัลแปลกเกินไปไม่สามารถเข้าใจได้ มันไม่เข้ากับกรอบ แต่มันทำให้คุณกลัวคนแบบนั้น
เมื่อพูดถึงว่าใครคือชายขอบคุณเข้าใจว่าเขาไม่สามารถแสดงสีบวกหรือลบได้อย่างชัดเจน แท้จริงแล้วรวมถึงคนไร้บ้านผู้ติดยาเสพติดและ“ gopniks” ที่ล้มเหลวในการปรับตัวในสังคมและปฏิเสธกฎของมันในบรรดาคนชายขอบอาจมีเช่น Leonardo da Vinci, Einstein หรือ Count Tolstoy พวกเขายังเป็น“ คนในตัวเอง” ผู้ที่อาศัยอยู่ตามกฎของตัวเอง
ดังนั้นชายขอบคือคนที่ตกลงจากปกติยอมรับโดยทั่วไปเข้าใจได้ นี่คือสถานะของ“ เส้นเขตแดน” ความเป็นสื่อกลางระหว่างผู้เข้าใจและผู้ยิ่งใหญ่ที่จะส่องแสงในอนาคตหรือระหว่างผู้ที่เข้าใจและไม่เหมาะไม่เหมาะสมที่จะหายไปพร้อมกับความตายของผู้ให้บริการ
แนวคิดที่น่าทึ่งที่สุดคือความไม่สามารถคาดเดาได้ของการพัฒนากิจกรรมเพิ่มเติมสำหรับบุคคลใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมกับชีวิตประจำวันของบุคคลในยุคนั้น หลังจากที่ทุกผู้ให้บริการของทัศนคตินี้ไปทั่วโลกในขั้นต้นไม่ได้ติดตาม ดังนั้นไม่มีใครและไม่มีอะไรสามารถส่งผลกระทบต่อชะตากรรมในอนาคตของพวกเขา เวลาตัดสินใจสิ่งที่จะมีชีวิตอยู่และสิ่งที่ควรจมอยู่ในการให้อภัย
ท้ายที่สุดแล้วแม้แต่คนที่ประกาศตัวเองว่าเป็นพวกต่อต้านก็ยังคงคิดตามเกณฑ์ที่ยอมรับกันโดยทั่วไปซึ่งเชื่อฟังบรรทัดฐานของพฤติกรรมภาษาความคิดในที่สุด สำหรับขอบเขตโดยนิยามไม่สามารถมีเกณฑ์ที่เราสามารถประเมินมรดกของเขา ท้ายที่สุดเขาอยู่นอกเวลาและสถานการณ์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายมากที่จะพาคนอื่นมาหลอกลวงในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและพิจารณาว่า "คนที่มาจากอนาคต" เป็นบ้า
นี่เป็นโศกนาฏกรรมของสถานการณ์ เป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้เผยพระวจนะที่แท้จริงที่จะผ่านพ้นไปได้และผู้เผยพระวจนะเท็จจะทำตามแนวทางที่ผิดและเป็นเรื่องง่าย ไม่ไม่มีเกณฑ์ที่ชัดเจนในศิลปะและวัฒนธรรมในการพิจารณาความจริงของปรากฏการณ์
ร่อแร่เป็นคนที่สะสมพัฒนาลักษณะความคิดหลักการที่จะนำมาใช้ในรุ่นต่อไปในอนาคต มันเป็นยีสต์ชนิดหนึ่งที่ภาพลักษณ์ใหม่ของมนุษยชาติจะสูงขึ้น ขณะนี้สิ่งที่ถือว่าไม่เป็นระบบอาจกลายเป็นความคิดเห็นและบรรทัดฐานของการรับรู้ที่แพร่หลายในวันนี้ แต่มันอาจไม่กลายเป็น!
ดังนั้นการพูดเกี่ยวกับบุคคลที่เป็นเช่นนี้คือใครได้ทิ้งความคิดบางอย่างเกี่ยวกับโลกและตามโคตรไม่ได้เข้าร่วมคนอื่น ๆ เราจะเข้าใจ - นี่คือขอบเขต ความหมายของคำนั้นแสดงให้เห็นว่านี่เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถนิยามได้ค่อนข้างซับซ้อนซึ่งมีเพียงลูกหลานของเราเท่านั้นที่สามารถชื่นชมได้อย่างถูกต้อง
