ปรัชญาสุญญากาศคืออะไร?

ปรัชญาสุญญากาศเป็นลัทธิลึกลับไสยศาสตร์ปัจจุบันที่มีอยู่ในยุคสมัยโบราณและ Hellenism การศึกษาตำราที่มีความรู้ที่ซ่อนอยู่ประกอบกับบุคคลในตำนาน - ปราชญ์ Hermes Trismegistus ซึ่งเป็นเทพเจ้ากรีกแห่งความรู้และภูมิปัญญา Thoth ซึ่งถูกเรียกว่ากรีกโดยชาวกรีก มันเป็นชื่อของเขาที่ชื่อหลักคำสอน

ข้อมูลทั่วไป

ปรัชญาสุญญากาศกลายเป็นหลักคำสอนของนักเล่นแร่แปรธาตุยุโรปในยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา การสอนนี้มีลักษณะลึกลับที่ซ่อนอยู่และองค์ประกอบรวมของโหราศาสตร์ Chaldean ปรัชญากรีกโบราณที่นิยมนิยมการเล่นแร่แปรธาตุอียิปต์โบราณและเวทมนตร์เปอร์เซีย

ตามธรรมเนียมลัทธิลึกลับนั้น (เป็นปรัชญา) เป็นหลักคำสอนเกี่ยวกับกฎของธรรมชาติที่สูงกว่าทั้งบนหลักการของเวรกรรมและหลักการของการเปรียบเทียบ

สมัครพรรคพวกของแนวโน้มนี้เชื่อว่าความเข้าใจในการเชื่อมต่อสาเหตุใด ๆ โดยอาศัยหลักการของการเปรียบเทียบยังสามารถเสริมด้วยผลขลังในความเป็นจริงของความปรารถนาส่วนบุคคลของการปฏิบัติตามคำสอนที่ซ่อนอยู่

ดังนั้นสุญญากาศหมายถึง "ความลับ" ในความหมายปกติสุญญากาศ - มันปิดอย่างแน่นหนา

เรื่องราว

ในยุคกลางปรัชญาสุภาษิตหรือปรัชญาของไสยศาสตร์ได้รับการพัฒนาผ่านญาณคริสเตียนตะวันออกและยิวในหมู่ชาวมุสลิมและหลังจากสงครามครูเสดมันปรากฏตัวในรูปแบบของการเล่นแร่แปรธาตุในยุโรปคาทอลิก ผลงานของพ่อรุ่นแรก ๆ ของคริสตจักรสะท้อนอย่างแน่นอนกับผืนผ้าแห่งความลึกลับ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะมีการแบ่งเขตของศาสนาคริสต์และลัทธิผู้มีความเชื่อ ขั้นตอนแรกดำเนินไปในทิศทางนี้ในปี 325 เมื่อสภาไนซีอาตัดสินว่าหลักคำสอนของการกลับชาติมาเกิดไม่สอดคล้องกับพระคัมภีร์

เหตุการณ์สำคัญที่สองคือการประกาศโหราศาสตร์ในฐานะอาชีพโหดร้ายในปี 1227 ดังนั้นปรัชญาสุญญากาศซึ่งเราอธิบายไว้สั้น ๆ อย่างเป็นทางการตกอยู่ภายใต้การห้ามของคริสตจักรคาทอลิก ศตวรรษแห่งการให้อภัยมาต่อไป

ตราประทับยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา

หลักคำสอนนี้ฟื้นขึ้นมาในปี ค.ศ. 1460 ในตะวันตกเมื่อพระลีโอนาร์โดส่งโดย Cosimo de Medici เพื่อค้นหาต้นฉบับโบราณที่หายไปในอารามในยุโรปนำไปสู่สำเนาพิสโตเอียของบทความเกี่ยวกับฤษีเขียนที่กรีก บทความเหล่านี้ในภายหลังใน 1461 ถูกแปลโดย Marsilio Ficino เป็นภาษาละตินและมีส่วนทำให้เกิดการระบาดใหม่ของความสนใจในการปิดผนึก

ปรัชญาสุญญากาศของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาถูกเติมเต็มโดยการศึกษาของนักปรัชญาชาวสวิสไอแซกเดอคาโบนที่ 2157 หลังจากวิเคราะห์ตำราสุภาษิตจากมุมมองของเนื้อหาภาษาและข้อความที่เกี่ยวข้องกับตำราอื่น ๆ สรุปว่างานของ Hermes Trismegistus สร้างขึ้นแล้วในช่วงยุคคริสเตียน

ในปีพ. ศ. 2488 มีการพบพระคัมภีร์ลึกลับในคอปติกที่อยู่ใกล้ Nag Nagadi พวกเขาถูกล้อมกรอบเป็นคำปราศรัยอุทิศระหว่าง Asclepius จาก Hermetic Corps และ Hermes และข้อความอธิบายโรงเรียนลึกลับของ Hermeticism

Hermetism เป็นศาสนา

ไม่ใช่ผู้เสนอแนวโน้มทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับศาสนาส่วนหนึ่งของพวกเขาพิจารณาเฉพาะระบบปรัชญา

ในศาสนาที่ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าสูงสุด (หลักการ) เรียกว่าพระเจ้า (ทั้งหมด, หนึ่ง) นอกจากนี้สาวกของหลักคำสอนต่างก็จัดอันดับความเชื่อและความคิดที่ลึกลับของศาสนาอื่น ๆ: ศาสนาคริสต์ยูดายพุทธศาสนาอิสลามอิสลามและศาสนาหลัก ๆ เนื่องจากพวกเขามีความเห็นว่าศาสนาที่ยิ่งใหญ่ทุกคนมีหัวใจเดียว พวกเขาเชื่อว่าศาสนาของโลกทุกคนมีความเข้าใจในหลักการที่ลึกลับของ Hermeticism

ตำราปรัชญาและศาสนา

ถึงแม้ว่าการประพันธ์ของผลงานลึกลับหลายอย่างนั้นมาจาก Hermes Trismegistus แต่ผู้สนับสนุนหลักคำสอนเชื่อว่าเขาเขียนเพียงสี่สิบสองงานเท่านั้น

ทุกวันนี้มีข้อความสำคัญสามประการที่เป็นที่รู้จักกันดี เหล่านี้คือแท็บเล็ต Emerald, the Hermetic Corps และ Kibalion มาพูดถึงหนังสือแต่ละเล่มโดยละเอียด

"ที่อยู่อาศัยลึกลับ"

งานนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางที่สุดและเป็นพื้นฐานในการทำความเข้าใจกับคำติชม ประกอบด้วยหนังสือ 16 เล่มซึ่งเป็นบทสนทนาของ Hermes หนังสือเล่มแรกเน้นการสนทนาระหว่าง Hermes และ Pemander คุณลักษณะที่โดดเด่นคือเฮอร์มีสทำหน้าที่เป็นนักเรียนของ Poemander แม้ว่าในบทความอื่น ๆ ทั้งหมดเขาตรงกันข้ามเป็นครูของฝ่ายตรงข้ามของเขา

แท็บเล็ต Emerald

นี่เป็นงานสั้น ๆ ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลหลักของสัจพจน์ลึกลับที่โด่งดังซึ่งประกาศว่าสิ่งที่อยู่ด้านล่างนั้นคล้ายคลึงกับสิ่งที่อยู่ด้านบน นอกจากนี้ "แท็บเล็ต Emerald" หมายถึงความถูกต้องถึงสามเท่าและกฎสามประการเพื่อความรู้ที่ Hermes เรียกว่า Trismegistus จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์พบว่าหนังสือเล่มนี้ถูกค้นพบในเฮบบรอนในหลุมฝังศพของเฮอร์มีสโดยอเล็กซานเดอร์มหาราช

"Kybalion"

งานนี้อธิบายว่าคำติชมคืออะไรถูกตีพิมพ์โดยนักเขียนนิรนามสามคนในปี 2455 พวกเขาเรียกตัวเองว่า "สามประทับ" ใน Kibalion เจ็ดหลักสำคัญของคำติชมเหล่านี้มีการระบุไว้และแสดงความคิดเห็นในกล่าวคือ:

1. หลักการของความเชื่อเรื่องจิต: จักรวาลเป็นภาพทางจิตของพระเจ้า

2. หลักการของการเปรียบเทียบ (การติดต่อ): ยืนยันการเปรียบเทียบระหว่างโลกที่สูงขึ้นและต่ำลงพิภพเล็กและมาโคร ด้านล่างคล้ายกับด้านบน

3. หลักการของการสั่นสะเทือน: ทุกสิ่งที่มีอยู่เป็นเพียงการสั่นสะเทือนที่แตกต่างกัน (แก้ไข) ของ One Original

4. หลักการของจังหวะ: ทุกอย่างอยู่ในการเคลื่อนไหวต่อเนื่องแบบสองทาง: มันลงและขึ้นไปไปจากที่ตรงข้ามกับที่อื่น

5. หลักการของขั้ว: ทุกอย่างมีความเป็นตรงกันข้ามของตัวเองในความเป็นจริงตรงกันข้าม - นี่คือใบหน้าของสิ่งหนึ่งและพวกเขาก็สามารถคืนดีกับความขัดแย้ง

6. หลักการทางเพศ: ทุกสิ่งรวมสองหลักการและความคิดสร้างสรรค์ใด ๆ เป็นผลมาจากการมีปฏิสัมพันธ์ของสองหลักการ

7. หลักการของเหตุและผล: ทุกอย่างมีเหตุและผลโอกาสเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นที่รู้จัก

   

ความเชื่อลึกลับ

ปรัชญาสุญญากาศในระบบความเชื่อของมันรวม monotheism, pantheism และ polytheism และสอนว่ามีสาเหตุรากซึ่งเราเองเป็นส่วนและโดยทั่วไปทุกอย่างในจักรวาล นอกจากนี้คำสอนนี้ยังได้รับการลงนามภายใต้ความเชื่อเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของปีศาจเทพเจ้าครูใหญ่และธาตุ (ผู้อาศัยในองค์ประกอบหลัก)

การอดกลั้นเป็นหลักคำสอนที่เกิดขึ้นจากหลักการเจ็ดข้อที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้นและความเชื่อของตัวแทนนั้นขึ้นอยู่กับพวกเขา